กำจัดไขมันส่วนเกิน ทางลัดหุ่นดี

 ด้วยโปรแกรมดูดไขมันที่  S WEALTH CLINIC

 

   การดูดไขมัน (Liposuction) เป็นการใช้เครื่องมือที่มีลักษณะคล้ายท่อยาวใส่เข้าไปใต้ผิวหนังเพื่อดูดไขมันส่วนเกินออกมาจากบริเวณต่าง ๆ ได้แก่ หน้าท้อง สะโพก ต้นขา ต้นแขน คอ ก้น เป็นต้น ทำให้ลดจำนวนไขมันบริเวณส่วนต่าง ๆ ที่สะสมเฉพาะที่ลงได้เพื่อให้ได้รูปร่างเเละสัดส่วนที่ดีขึ้น 

 


 

  

 

ใครเหมาะสำหรับการดูดไขมัน ?

  • ผู้ที่ไม่ได้อ้วนทั้งตัว
  • ผู้ที่ไม่ได้มีน้ำหนักเกินปกติมาก
  • ผู้ที่มีการสะสมของไขมันเฉพาะที่
  • ผู้ที่มีไขมันสะสมและลดลงไม่ได้ด้วยการออกกำลังกายและควบคุมอาหาร
  • ผู้ที่ผิวหนังยืดหยุ่นดี หลังจากดูดไขมันผิวจะเรียบสวยหย่อนน้อย

 


 

วิธีการดูดไขมัน

     ในการผ่าตัดดูดไขมันศัลยแพทย์จะทำเครื่องหมายบนร่างกายในตำแหน่งที่ต้องการดูดไขมันออก หลังจากนั้นจึงทำการเจาะรอยเล็กบริเวณผิวหนัง ขนาดประมาณ 0.5 – 2 เซนติเมตร แล้วใส่ท่อเรียวยาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลางประมาณ 2 – 5 มิลลิเมตรที่จะดูดไขมันเข้าไป ซึ่งท่อนี้จะต่อกับเครื่องปั๊มสุญญากาศหรือเครื่องอัลตราซาวนด์ โดยปริมาณไขมันที่ออกมาจะมากหรือน้อยขึ้นอยู่กับตำแหน่งและปริมาณไขมันที่สะสม อาจจะเสียเลือดบ้างเล็กน้อย หลังผ่าตัดศัลยแพทย์จะใช้ผ้าพันหรือผ้ารัดบริเวณที่ดูดไขมัน

 

การดูดไขมัน อันตรายหรือไม่ ?

     การดูดไขมันนับเป็นศัลยกรรมประเภทหนึ่งที่มีความอันตรายถ้าไม่ได้ดำเนินการด้วยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ เพราะการดูดไขมันมีความจำเป็นที่ต้องอาศัยแพทย์ผู้เชี่ยวชาญในการผ่าตัด ไม่สามารถทำเองได้ด้วยตัวเองหรือให้ผู้อื่นที่ไม่ใช่แพทย์ทำหัตถการ เพราะการดูดไขมันต้องทำร่วมกันกับการผ่าตัด ต้องอาศัยความรู้เฉพาะทางและต้องทำโดยแพทย์เท่านั้น

      โดยการดูดไขมันแต่ละวิธีอาจมีการฉีดยาชา วางยาสลบ หรือใช้เครื่องมือและสารละลายเป็นตัวช่วย ผู้ใช้บริการบางรายอาจมีอาการบวม-ช้ำ หรือชาทั่วร่างกายเป็นเวลานาน หรือเกิดถุงใต้ชั้นผิวหนังจากการสะสมของของเหลว หน้าท้องเป็นก้อนไม่สม่ำเสมอ

 


 

ทำไมต้องดูดไขมันที่ S WEALTH CLINIC ?

ดูดไขมันด้วยเทคนิคพิเศษแบบ Fat Tite By Dr.Shank ดูดออกได้ปริมาณไขมันที่มากแต่ถนอมผิวมากที่สุด

ไม่เสี่ยงเป็นคลื่น แผลเล็กเพียง 2 มิลเจ็บน้อย พักฟื้นไม่นาน

 

 ขั้นตอนการดูดไขมันที่ S WEALTH CLINIC

 

 


การเตรียมตัวก่อนดูดไขมัน

 

 

  • หากมีโรคประจำตัวใดๆ หรือมีประวัติการแพ้ยา ต้องแจ้งให้แพทย์ที่ดูแลทราบทุกครั้ง
  • กรณีที่มีการรับประทานยากลุ่มละลายลิ่มเลือด เช่น แอสไพริน หรือยาอื่น ๆ ต้องหยุดรับประทายยาดังกล่าวอย่างน้อย 1 สัปดาห์ก่อนการดูดไขมัน โดยที่ได้รับการอนุญาตจากแพทย์ที่ดูแลก่อนทุกครั้ง
  • หากรับประทานยาวิตามินอี น้ำมันตับปลา อาหารเสริมหรือสมุนไพรต่างๆ ควรหยุดรับประทานวิตามินหรืออาหารเสริมเหล่านี้อย่างน้อย 2 สัปดาห์ก่อนการดูดไขมัน เพื่อป้องกันภาวะเลือดหยุดยากหรือรอยช้ำนานหลังการผ่าตัด

 


 

การดูแลตัวเองหลังดูดไขมัน

  • ทำแผลตามคำแนะนำของแพทย์
  • หลังจากดูดไขมันแล้วควรพักผ่อน และขยับร่างกายบ้างเล็กน้อยเพื่อป้องกันก้อนเลือดหรือลิ่มเลือดอุดตัน อีกทั้งยังเป็นการช่วงระบายของเสียที่ค้างอยู่ในร่างกาย
  • ควรแปะพลาสเตอร์กันน้ำทุกครั้งก่อนอาบน้ำ เพื่อป้องกันไม่แผลโดนน้ำเพื่อป้องกันการติดเชื้อหรือบาดแผลปิดไม่สนิทได้
  • สวมกระชับสัดส่วนตลอด 24 ชั่วโมงใน 3 วันแรก หลังจากนั้นจึงค่อยลดลงเหลือวันละ 12 ชั่วโมงเป็นเวลา 1 เดือน
  • งดการเคลื่อนไหวร่างกายอย่างรุนแรงเพื่อป้องกันแผลเปิด 
  • งดทานอาหารรสเค็ม และแอลกอฮอล์รวมไปถึงการสูบบุหรี่เพื่อป้องกันแผลหายช้า
  • หากเกิดความผิดปกติหลังการดูดไขมัน ให้รีบไปพบแพทย์ทันที