โปรแกรมโบท็อกซ์
ลดริ้วรอย หน้าเรียวได้รูป
ด้วยโปรแกรม "โบท็อกซ์" ที่ S WEALTH CLINIC
Botox (โบท็อกซ์) คือ สารโบทูลินั่มท็อกซินเอ (Botulinum toxin A) ซึ่งเป็นโปรตีน ชนิดหนึ่งที่สร้างจากแบคทีเรียชื่อ ครอสตริเดียม โบทูลินั่ม (Clostridium botulinum) โบท็อกซ์มีการใช้มานานมาก เริ่มต้นโดยการนำมารักษากล้ามเนื้อคอกระตุก กล้ามเนื้อตากระตุก รวมถึงอาการปวดไมเกรน ตาเหล่ เป็นต้น
จุดเริ่มต้นการนำโบท็อกซ์มาใช้ในเรื่องของผิวพรรณและความสวยงามโบท็อกซ์ คือ สารจากธรรมชาติที่เป็นโปรตีนบริสุทธิ์สกัดจากแบคทีเรียที่มีประโยชน์ชนิดหนึ่งซึ่งจะช่วยคลายกล้ามเนื้อบริเวณที่หดตัว โดยหลังการฉีดโบท็อกซ์แล้วตัวยาจะจับตัวกับปลายเส้นประสาทที่เชื่อมต่อกับกล้ามเนื้อ ทำให้กล้ามเนื้อส่วนนั้นคลายตัว ส่งผลให้ริ้วรอยลดเลือน เมื่อกล้ามเนื้อไม่เกร็งตัวแล้ว โบท็อกซ์ยังจะช่วยส่งผลปรับลดขนาดกล้ามเนื้อ ช่วยให้คุณแลดูอ่อนเยาว์มากยิ่งขึ้น โบท็อกซ์ยังสามารถช่วยลดการทำงานในส่วนของกล้ามเนื้อที่เราไม่ต้องการ ซึ่งจะช่วยปรับรูปหน้าของคุณให้เรียวขึ้นได้อีกด้วย
ด้วยคุณสมบัติที่ทำให้กล้ามเนื้อคลายตัว เมื่อกล้ามเนื้อคลายตัวผิวหนังที่เป็นริ้วรอยอยู่ก็จะเรียบเนียนขึ้น โดยจะออกฤทธิ์ภายใน 1-2 วันหลังฉีกโบท็อกซ์ แต่ผลลัพธ์จะคงอยู่หลังจากฉีดประมาณ 3-6 เดือน ไม่ได้ถาวร ซึ่งขึ้นอยู่กับว่าใช้ฉีดรักษาอาการอะไร ฉีดบริเวณใด และผู้รับการรักษาอายุเท่าไหร่
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยรอบดวงตา
บริเวณใต้ตาเป็นส่วนที่เกิดริ้วรอยได้ง่ายที่สุดและมักเกิดริ้วรอยก่อนบริเวณอื่น เพราะเป็นส่วนที่ค่อนข้างบอบบางถ้าเทียบกับส่วนอื่นๆ บนใบหน้า ซึ่งทำให้ใบหน้าดูอ่อนล้า การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยรอบดวงตาจะช่วยให้กล้ามเนื้อคลายตัวชั่วคราว ริ้วรอยจางลง เส้นตีนกาดูตื้นขึ้น แต่ไม่ควรฉีดอัดจนแน่นมากเกินไป เพราะจะทำให้ดูตาแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
จำนวนยูนิตที่ควรฉีด : 15-20 ยูนิต
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยระหว่างคิ้ว
ช่วงระหว่างคิ้ว เป็นบริเวณนี้เกิดริ้วรอยได้ง่ายคล้ายๆ กับบริเวณรอบดวงตา ซึ่งเกิดจากการยักคิ้วหรือการขมวดคิ้ว การฉีดโบท็อกซ์ในส่วนของริ้วรอยระหว่างคิ้ว จะช่วยยับยั้งการหดตัวและทำให้ผิวหนังส่วนบนเรียบขึ้น นอกจากนี้ยังเป็นจุดที่ฉีดแล้วสามารถอยู่ได้นานกว่าจุดอื่น แต่ก็เป็นจุดที่ยากและมีความเสี่ยงสูง เพราะมีจำนวนของเส้นประสาทเป็นจำนวนมาก จึงควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อนที่จะฉีด
จำนวนยูนิตที่ควรฉีด : 6-15 ยูนิต
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยหน้าผาก
เป็นอีกหนึ่งจุดที่ใครหลายคนเริ่มต้นการฉีดโบท็อกซ์ในส่วนนี้ ริ้วรอยบนหน้าผากเกิดจากการแสดงอารมณ์และสีหน้า เมื่อเวลาผ่านไปและอายุที่มากขึ้น ริ้วรอยบริเวณนี้จะเริ่มลึกกว่าเดิมและเห็นชัดมากขึ้นเรื่อยๆ ฉะนั้นการฉีดโบท็อกซ์หน้าผากจะช่วยลดริ้วรอยเหล่านี้ได้
จำนวนยูนิตที่ควรฉีด : 15-20 ยูนิต
โบท็อกซ์ลดริ้วรอยร่องแก้ม
บริเวณร่องแก้มเป็นส่วนที่แสดงให้เห็นถึงความมีอายุได้ง่าย มีสาเหตุมาจากการยิ้มบ่อยๆ และอายุที่มากขึ้น ความหย่อนคล้อยของผิวที่มากขึ้นตาม การฉีดโบท็อกซ์ลดริ้วรอยร่องแก้มจะทำให้เกิดการคลายตัวของกล้ามเนื้อ ช่วยกระชับแก้มและลดเลือนริ้วรอยต่างๆ ให้จางหายไปได้ แต่ไม่ควรแก้ด้วยโบท็อกซ์อย่างเดียว เพราะจะทำให้การยิ้มดูไม่เป็นธรรมชาติ ควรเพิ่มฟิลเลอร์ที่เป็นสารเติมเต็มร่องแก้มเข้าไปด้วย
จำนวนยูนิตที่ควรฉีด : 15-20 ยูนิต
โบท็อกซ์กรามและกรอบหน้า
การฉีดโบท็อกซ์ในส่วนนี้จะช่วยให้ผิวบริเวณกรอบหน้ายกกระชับขึ้น ปรับรูปหน้า ลดกรามให้เล็กลง ทำให้ใบหน้าของเรามีความเรียวสวยและเข้ารูปมากยิ่งขึ้น รวมถึงช่วยเสริมโครงหน้าให้มีมิติ ถือเป็นจุดยอดนิยมในการฉีดโบท็อกซ์ นอกจากนี้ใครที่มีแก้มเยอะอาจจะเสริมการฉีดเมโสแฟตเข้าไปด้วยก็จะช่วยให้รูปหน้าดูเรียว มีมิติมากขึ้น
จำนวนยูนิตที่ควรฉีด : 25-30 ยูนิต
โบท็อกซ์ปีกจมูก
บางคนมีปัญหาบริเวณปีกจมูกใหญ่หรือไม่เข้ากับรูปหน้า การฉีดโบท็อกซ์จะช่วยลดการทำงานของปีกจมูกทำให้ดูเล็กลงและได้รูปทรงมากยิ่งขึ้น หลังจากการฉีดโบท็อกซ์จะทำให้ปีกจมูกขยับได้น้อยลง เวลาแสดงสีหน้าและแกนจมูกคมชัดขึ้น แต่ไม่ควรฉีดในปริมาณมากเกินไป เพราะจะทำให้จมูกดูแข็ง ไม่เป็นธรรมชาติ
จำนวนยูนิตที่ควรฉีด : 8-10 ยูนิต
การฉีดโบท็อกซ์มีข้อดีกับใบหน้าของเราหลายประการ แต่การฉีดอย่างถูกต้องและเหมาะสมกับแต่ละส่วนของใบหน้าก็เป็นเรื่องสำคัญที่เราควรศึกษาและให้ความสำคัญไม่แพ้กัน ฉะนั้นสิ่งที่ดีที่สุดก่อนตัดสินใจทำสวยกับใบหน้าควรเข้ารับการปรึกษาแพทย์เฉพาะทางก่อน
1. ก่อนการฉีดโบท็อกซ์ ควรดูแลสุขภาพให้แข็งแรง พักผ่อนให้เพียงพอ
2. หากรับประทานยาหรืออาหารเสริม ได้แก่ น้ำมันปลา วิตามินอี สารสกัดจากใบแปะก๊วย ยาละลายลิ่มเลือดกลุ่ม แอสไพริน ยาลดการ อักเสบกลุ่ม NSAID ควรงดมาอย่างน้อย 5 วัน เนื่องจากจะทำให้เลือดหยุดช้า ทำให้เกิดรอยช้ำได้
3. งดเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ทุกชนิด อย่างน้อย 7 วันก่อนการฉีด
4. ไม่อยู่ในภาวะตั้งครรภ์ หรือ ให้นมบุตร
ข้อแนะนำหลังการฉีดโบท็อกซ์
1. พยายามขยับกล้ามเนื้อบริเวณที่รักษาทุก 15 นาที นานประมาณ 4 ชั่วโมง เพื่อให้โบท็อกซ์กระจายเข้าสู่กล้ามเนื้อได้ เร็วขึ้น เช่น ถ้าฉีดรอบดวงตา ควรยิ้มทุก 15 นาทีใน 4 ชั่วโมงแรกหลังการรักษา
2. หลีกเลี่ยงการนอนราบ หรือเอนศีรษะ 4 ชั่วโมงแรกหลังการฉีดโบท็อกซ์ เพื่อป้องกันการไหลของยาไปสู่กล้ามเนื้อ บริเวณอื่นที่อาจเกิดผลข้างเคียงที่ไม่ต้องการได้
3. สามารถล้างหน้าได้ หลังการรักษา 4 ชั่วโมง และสามารถทาครีม เครื่องสำอางค์ได้ในวันถัดไป
4. หลีกเลี่ยงการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์หลังการฉีด 3-5 วันหลังการรักษา
5. ถ้ามีรอยช้ำสามารถประคบเย็นได้ภายใน 24 ชั่วโมงหลังการฉีด ภายหลัง 24 ชั่วโมงสามารถประคบด้วยน้ำอุ่น
6. หลังการฉีดโบท็อกซ์ลดกราม ควรหลีกเลี่ยงอาหารแข็ง ของขบเค้ี้ยว หมากฝรั่ง
7. หลีกเลี่ยงการนวดหน้า ขัดหน้า หรือ เลเซอร์ใบหน้า หลังการรักษาด้วยโบท็อกซ์ 2 สัปดาห์
8. หลีกเลี่ยงการกดคลึงใบหน้าบริเวณที่ฉีดโบท็อกซ์หลังการรักษาอย่างน้อย 2 สัปดาห์
9. รอยนูนหลังฉีดจะค่อยๆหายไปเองภายใน 2-3 ชั่วโมงหลังการฉีด สามารถประคบเย็นเพื่อให้หายเร็วขึ้นได้